เรื่อง “การเลือกซื้อครีมกันแดด"
การป้องกันแสงแดดไม่ให้ทำลายผิวสวยๆ ของเราเป็นที่ทราบกันดีว่าแสงแดดมีรังสี อัลตร้าไวโอเลต หรือ รังสี UV แบ่งเป็น 3 ประเภท ยูวีเอ (UVA) , ยูวีบี (UVB) และยูวีซี (UVC) ซึ่งจะปลดปล่อยออกมามากที่สุดใน แต่ละวัน ช่วง 11.00-14.00 น. หากเราไม่ป้องกันผิวเราจากแสงแดดแล้ว ผลคือ ริ้วรอยก่อนวัยอันควรจาก UVA ,ผิวไหม้แดด หมองคล้ำจาก UVB และร้ายสุดคือมะเร้งผิวหนังจาก UVC ดังนั้น ครีมกันแดด (Sunscreen) เป็นทางออกที่ดีและง่ายที่สุดในการป้องกันแสงแดด แต่อาจยังมีข้อสงสัยใน
การเลือกซื้อนั้นว่าเราต้องพิจารณา อะไรบ้าง โดยทั่วไป ครีมกันแดด แบ้งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
ประเภทที่ 1 Chemical Sunscreen (ทางเคมี) ซึ่งจะมีส่วนประกอบของสารเคมีหลายชนิดทำหน้าที่ในการป้องกันแสงแดด มีข้อดีคือทาแล้วจะไม่ทำให้หน้ามัน แต่ข้อเสีย ทำให้เกิดการระคายเคืองได้มากในผลิตภัณฑ์ที่มีค่า SPF สูง
ประเภทที่ 2 Physical Sunscreen (ทางกายภาพ) จะมีส่วนประกอบของสาร Titanium dioxide หรือ Zinc oxide มีคุณสมบัติสะท้องรังสี UVA และ UVB มีข้อด้อย คือ เมื่อทาบนผิวแล้ว หน้าจะดูขาวและมันมาก แต่มีข้อดี คือ จะดูดซึมสู่ผิวน้อยทำให้ไม่ระคายเคืองต่อผิว เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายหรือเด็ก
ในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์กันแดดนั้น เราต้องพิจารณาค่าที่บอกถึงประสิทธิภาพของครีมกันแดด 2 ค่าได้แก่
1.SPF (Sun Protecting Factor) บ่งบอกถึงความสามารถในการป้องกันรังสี UVB สำหรับเมืองไทย เราควรเลือกที่ SPF 30 ขึ้นไป
2.PA (Protection Grade of UVA) บ่งบอกถึงความสามารถในการป้องกัน รับสี UVA ใช้เครื่องหมาย + เป็นตัวบอก โดยควรเลือกที่ระบุว่า PA++ ขึ้นไป
สรุป คือ ถ้ากลัวผิวคล้ำ ดำ ควรเลือกผลิตภัณฑ์กันแดดที่ SPF สูงๆ แต่ถ้ากลัว ริ้วรอยเหี่ยวย่น ก็ควนเลือกผลิตภัณฑ์ที่ PA + มากเช่นกัน (ปัจจุบันสูงสุด ++++)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น